X-Close



welovethailand รับบอกรักประเทศไทยด้วยตัวคุณเอง

X-Close
-->

เธอใส่เสื้อที่ผมซื้อให้ด้วยละ

          สำหรับวันนี้นะครับ ผมได้พาหลายชายของผมไปตัดผม ระหว่างที่รอหลานตัดผมอยู่ ผมไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี จึงคิดว่าจะโทรไปหาเธอดีไหนน้า ใจหนึ่งก็กลัวจะไปรบกวนเธอ กลัวเธอไม่อยากคุยด้วย ผมก็เลยว่า เอ้าเป็นไงเป็นกันว่ะ ผมจึงตัดสินใจโทรไปหาเธอ ผมก็ถามเธอต่างๆ มากมายหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ผมดีใจสุดๆ

          คือเรื่องที่ผมถามเธอว่า เสื้อที่เราซื้อให้นะได้ใส่มันไหม เธอก็ตอบว่าใส่อยู่ใส่บ่อยด้วย ซึ่งเมื่อผมได้ยินคำนี้ มันทำให้ผมดีใจแบบสุดๆ ที่เธอใส่เสื้อที่ผมซื้อให้เธอ ซึ่งเสื้อตัวนี้เป็นเสื้อที่ผมซื้อมาจาก "เกาะช้าง" เพื่อที่จะนำมาฝากเธอ แล้วเธอก็ใส่มัน โอ้ย!!!  ดีใจสุดๆ เลยครับ

พอขึ้นปี 2

          ความรักที่ผมมีต่อเธอ มันก็ยังไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย มันกับเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ ซึ่งเวลามันก็ผ่านไปเร็วเหลือเกินแป๊บเดียว 5 ปีแล้ว ที่ผมยังรักเธอคนนี้ข้างเดียวอยู่ และก็ยังไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังนี้ไปอีกนานแค่ไหน เพราะผมก็รู้อยู่ว่าการที่เรารักคนที่เขาไม่ได้รักเรา นะมันเจ็บและเจ็บมากด้วยแต่ก็จะให้ทำยังไงได้ละก็ใจเรามันรักเค้าไปแล้วนิ แต่ผมก็ยังถือว่าโชคดีนะที่เธอยังไม่มีแฟน ไม่ใช่สิเธอมีแล้วแต่เธอก็เลิกคับเค้าคนนั้นไปแล้ว ซึ้งมันเป็นสิ่งที่ผมดีใจมากที่เห็นพวกเค้านั้นเลิกกัน เพราะมันยังทำให้ผมมีความหวังอยู่ (ถึงคนอื่นจะมองว่าผมเห็นแก่ตัวก็ชั่งเถอะ)

          และแล้ววันนึ่งชะตาฟ้าลิขิตมันก็ทำให้โทรศัพท์ของผมมันดังขึ้น ซึ่งคนที่โทรมานั้นคือเธอคนนั้น เธอชวนผมไปเลี้ยงฉลองงานวันเกิดเพื่อนของเธอซึ่งมันตรงกับวันที่ 11 เดือนธันวาคม 2555 เป็นวันที่ผมมีความสุขมากอีกวันนึ่งเพราะเป็นวันที่ผมได้ใกล้ชิดกับเธออีกครั้ง หลังจากที่ผมไม่ได้เจอเธอมานาน เธอชวนผมไปนั่งข้างๆ เธอด้วยละมีความสุขสุดๆ เลยครับ อะไรมันจะมีความสุขขนาดนี้เนี่ย...

แต่งเพลงให้เธอ

          เมื่อความรักและความคิดถึงที่ผมมีให้เธอมันมากเกินที่จะเก็บไว้ ไม่รู้ว่าจะไประบายออกที่ไหนผมก็เลยตัดสินใจรวบรวมเอาความรู้สึกของผมที่มีต่อเธอ ออกมาเป็นเพลงซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่ผมดัดแปลงเนื้อหามาจากเพลง "ไม่ซื่อ" ของพี่ๆ แดน-บีม จึงได้เพลงที่ชื่อว่า "มากกว่าเพื่อน" ซึ่งเพลงนี้ผมเป็นคนร้องเองทั้งหมด และรวบรวมเอาความรู้สึกที่ผมมีให้เธอทั้งหมดในตอนนั้นลงไปด้วย  ลองฟังดูหน่อยนะครับ (เสียงก็ไม่ได้ดีอะไรหรอก แต่ก็ตั้งใจทำนะ)

เมื่อเข้ามาเรียนมหาลัย

          หลังจากที่ผมได้บอกรักเธอครั้งที่ 2 ไปแล้ว ผ่านไปไม่นานเราก็ได้เข้ามาเรียนอยู่ที่มหาลัยเดียวกัน ซึ่งการที่ได้เรียนมหาลัยเดียวกันมันก็เป็นเหมือนเดิมอีกตามเคย คือผมเป็นคนเลือกที่จะเรียนมหาลัยเดียวกันกับเธอ เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆ เธอ ได้เห็นหน้าเธอบ่อยๆ แต่ผมเลือกที่จะเรียนคนละโปรแกรมกับเธอ เพราะเธอบอกว่าเธอไม่ชอบคนห้องเดียวกัน ผมก็เลยเลือกที่จะอยู่คนละห้องกับเธอ เผื่อเธอจะหันมามองผมบ้าง

          แต่เรื่องมันก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ผมคิด เพราะเมื่อเราอยู่กันคนละห้องเราก็เห็นกันน้อยลง คุยกันน้อยลง มันจึงทำให้ผมห่างกับเธอมากขึ้น ถ้าจะโทรไปก็กลัวไปลบกวนเธอผมจึงนานๆ ครั้งถึงจะโทรไปหาเธอครั้งนึ่ง ต้องรอให้ความคิดถึงมันสะสมมากๆ ก่อนค่อยโทรไปหาเธอ แต่ที่จริงก็คิดถึงเธอทุกวินาทีนะแหละ นานๆ ครั้งผมถึงจะได้เจอเธอครั้งนึ่ง ผมเห็นเธอครั้งไหนก็อดตื่นเต้นไม่ได้เลยสักครั้งครับ ยั่งนี้ละน่าเขาถึงเรียกว่า "รักมาก ก็คิดถึงมาก"

บอกรักเธอครั้งที่สอง

          หลังจากที่ผมได้เข้าไปอยู่ใกล้ๆเธอ อยู่ข้างๆเธอ ผมก็เลยตัดสินใจที่จะบอกรักเธออีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้เป็นการบอกรักทางโทรศัพท์น่ะ อิอิ ไม่กล้าบอกต่อหน้าน่ะกลัวพูดไม่ออก ผมก็เลยโทรไปหาเธอ ถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ก่อนแล้วค่อยวนกลับมาถามเธอว่า ...รักเราไหม เค้าก็บอกว่าเป็นเพื่อนกันนะดีแล้ว ผมเลยถามกลับไปว่า เราไม่ดีตรงไหนหรอทำไมเธอถึงไม่ชอบเรา เธอตอบกลับมาว่า นายนะดีทุกอยาก ดีเกินไปด้วยซ้ำ ผมก็เลยคิดในใจว่า ถ้าเราดีแล้วทำไมไม่รักเราล่ะ รึผู้หญิงชอบคนไม่ดีรึเปล่าว่ะเนี่ย

          แล้วก็พูดกลับเธอต่ออีกว่า ไม่เป็นไรแต่เรายังรักเธอเสมอนะ และจะรักเธอตลอดไปด้วย แล้วผมก็วางสายไป ความรู้สึกของผมในตอนนั้นมั้นชั่งหดหู่จิงๆเลยครับ

ความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆ เธอ

          เวลาผมอยู่ใกล้ๆเธอ มันทำให้ผมมีความสุขมาก เวลาเธอยิ้มเธอหัวเราะ มันชั่งทำให้โลกทั้งโลกดูสดใสขึ้นมาทันตาเลยครับ สำหรับในความรู้สึกของผมนะ ยิ่งผมได้อยู่ใกล้เธอมากเท่าไร หัวใจของผมมันก็ยิ่งบอกเลยว่า ผู้หญิงคนนี้ นี่แหละคือคนที่ใช่ คือส่วนหนึ่งในชีวิตผม ที่ผมตามหามานานแสนนาน เวลาเธอไปไหนมาไหนผมก็อยากจะไปกับเธอทุกที่ บางครั้งเธอไปเที่ยว หรือไปทำรายงาน ผมก็จะไปเป็นเพื่อนเธอ เพราะเป็นห่วงเธอกลัวเธอจะเป็นอันตราย เวลาเธอจะกลับบ้านผมก็จะคอยไปส่งเธอที่บ้านเสมอ ผมไปบ่อยๆ หลายๆครั้ง จนทำให้แม่ของเธอไว้ใจผม นั้นเป็นสิ่งที่ผมดีใจมาก ถึงจะเป็นการไว้ใจแบบเพื่อนคนนึงของเธอก็ตาม